บอกยังไง ให้ลำพองใจผู้ฟัง ให้เขารักพวกเรา

[Jessicas]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

อาจจะเป็นการถามไถ่ส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความหวังดีแล้วก็ตั้งใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำเรียบร้อย สมควร และก็นุ่มนวลด้วยนะคะ "คืออะไรบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งค่ะ" การใช้ความคุ้นเคยจะมีผลให้อีกข้างรู้สึกผ่ อ น คลายและก็เป็นมิตรด้วยนะคะ อีกประเด็นคืออวัจนะภาษาจ้ะ กิริยาท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


กริ้วหว่างดวงตาพวกเราหรือการสัมผัสบางสิ่งอาทิเช่น การสัมผัสไหล่เพื่อแรงใจ การประสานมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ตบมือให้เพื่อให้แรงใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านและก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

2. ฝึกบอก คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

เนื่องจากว่าคำว่า"ไม่" มันพูดให้ดูดีย า ก บอกบอกคำจำกัดความเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักนำมาใช้ทำร้ า ย จิตใจผู้อื่น แสดงถึงความรู้สึกว่าไม่พอใจในตัวเขาหรืองานของเขา คนจำนวนไม่น้อยใช้คำนี้จนถึงติดเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ลองแปลงวิธีใช้มันดูนะคะ เป็นต้นว่า "ทดลองทำแบบนี้ดูดีไหม" "แบบนี้ดีแล้วนะ ถ้าเกิดเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณรู้สึกว่าจะคืออะไรคะ" แสดงว่า พวกเรามิได้ไม่ยอมรับความคิดของอีกข้างแม้กระนั้นลองชี้แนะเพิ่มเหมือนการเสนอแนะเขา

3. ดูให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นเช่นกระบี่ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"สิ่งเดียวบางทีอาจไม่เพียงพอ คุณต้องฝึกหัดขั้นตอนการการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะและก็วิเคราะห์ไปพร้อมเพียงกันด้วยค่ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนอย่างไร เรื่องไหนควรจะบอก เรื่องไหนไม่สมควรพูด แต่ว่าที่สำคัญไปมากกว่านั้น ทุกครั้งถ้าเกิดจะมีการต่อว่า ตัดเตือน ปรับแต่งจุดบกพร่องของงาน ให้ทดลองมองให้ได้ 3 มุม


1. มุมของเรา : เราเห็นว่ายังไง ในตำแหน่ง หน้าที่เรา เราควรจะดูแบบไหน ขจัดปัญหายังไง


2. มุมของเค้า : ถ้าเกิดพวกเราเป็นเค้าเราจะทำเช่นไร หากเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนอย่างนี้เช่นเดียวกันเราจะรู้สึกอย่างไร แล้วเราจะไขปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือผู้อื่นที่ดู 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน สิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่จำเป็นที่จะต้องทะเลาะกันเลยแบบงั้นหรือ วิวาทด้วยหัวข้อนี้เหตุผลมาจากอะไร ฯลฯ

ถ้าหากคุณมองให้ได้ครบทุกมุม คุณจะมองเห็นทุกด้านของความคิด รู้เรื่องเค้า รู้เรื่องพวกเรา เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดเยอะขึ้น

4. อย่าว่ากล่าวผู้ใดกันแน่ ซึ่งๆหน้าบุคคลอื่น

ไม่มีใครถูกใจการถูกตำหนิค่ะ เราก็เช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งโดนดุเฉพาะหน้าคนอื่นด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ แค้นแสนร้ายแรงเสียเหลือเกินจริงๆการด่าผู้ใดกันต่อหน้าผู้อื่นมันเป็นการตั้งมั่นฉีกหน้าเค้าให้พังทลายยับจำพวกที่เรียกว่า

ผู้ที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปจนกระทั่งวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ รวมทั้งความเกี่ยวพันระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันที ท้ายที่สุดแล้วไม่มีข้างไหนชนะ ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากการทำแบบนี้ค่ะ ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วถ้าเกิดไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อส่วนรวมชี้แนะว่าไม่ควรทำอย่างมากค่ะ

5. มีศิลปกรดู

ดูเมื่อเค้าประพฤติดี ปฏิบัติงานเจริญ ช่วยเหลือคนอื่น มีผลงานที่ดี กระทำตัวดี คุณก็ควรดูเค้าด้วยใจที่ห่วงใย คำบอกเล่า คำจา น้ำเสียงที่ดี ใบหน้าปิติพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกมากนะคะ คนที่ถูกดูเค้าจะเหมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงกระตุ้น มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดีมากๆขึ้นไป

การมีนายช่างดูที่ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องดูที่ผลงานของเค้าแค่นั้นค่ะ อย า กให้ลองดูความน่ารักน่าเอ็นดูของเค้า ความโอบอ้อมอารี ความเอาใจใส่ที่เค้ามีต่อคุณ ดูอาภรณ์


ชมพาหนะ ดูกระเป๋าหิ้วเค้า หรือสิ่งรอบๆตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสบายให้เค้าได้แล้ว และก็เค้าจะกำเนิดภูมิใจเกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วเขาจะรักเรา หากแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธพวกเราค่ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางบุคคลเข้าใจผิดว่าการกล่าว"รั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อ"เป็นการบอกในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อเค้ากระปรี้กระเปร่า รวมทั้งบางครั้งมนุษย์เรา ก็ชอบที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตัวเอง)มากกว่ารั ก ษ า น้ำใ

ก็เลยเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเนื่องจากว่ากลัวว่าถ้าเกิดเราพูดเรื่องจริงไป"พวกเราจะดูไม่ดี และก็บางเวลาก็รั ก ษ า ความมีน้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งยังการพูดอะไรที่มันไม่จริงและทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำจ้ะ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นเสมือนการผลักดันและสนับสนุนการกระทำของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงละเลิงว่าสิ่งที่ตัวเราเองทำนั้นถูกดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนจะกล่าว แต่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องพูด ทุกคำที่พวกเราคิด" น้อยเกินไปค่ะ ต้องเลือกใช้คำที่จะกล่าวให้เหมาะสมด้วย

7. พบปริศนาที่จะต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางสิ่งแล้วเรายังคลุมเคลือ ตอบยังไงให้ดูดี

ถ้าเกิดจะต้องมีการตอบปัญหาที่เป็นปัญหาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรไหมควร ดีหรือเปล่าดี คุณคิดยังไง จำต้องทำยังไง พบคำถามเหล่านี้แล้วเราไม่รู้จักหรือไม่แน่ใจในคำตอบ

สิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือหากเราไม่ตอบ เราก็มองแ ย่ ถ้าเราตอบแล้วตอบไม่ถูก ก็มองแ ย่ ไม่แพ้กัน โดยเหตุนี้ช่องทางของเราให้เราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่ตรงนี้จ้ะ


⁃ คำตอบของคุณจะต้องไม่ไปพูดถึงคนใดกัน ไม่เป็นการตำหนิคนใดกัน


⁃ ใช้เหตุส่งผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้ค่ะ ช่างเถอะ ค่อยๆใช้ความคิด ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ ระบุถึงเหตุผลแหล่งที่มาให้กระจ่าง

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับพวกเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ฉันอย า กช่วยมากมายๆเลยจ๊ะ เลยอย า กแนะนำให้ลองปรึกษาทาง... จะได้คำตอบที่ชัวร์กว่านะค่ะ" นี่คือการไม่ยอมรับแบบรั ก ษ า ความมีน้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ ตรึกตรองมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดอย่างไรบ้ า งค่ะ" แต่ว่ากรณีนี้พวกเราควรจะมีการเพิ่มความเห็นของเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าพวกเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ดิฉันทราบแต่เพียงว่า... ส่วนที่เพิ่มอีกจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"แนวทางพูดยังไงให้คนรักนี้" ข้าพระพุทธเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกท่านนะคะ รวมทั้งขอขอบคุณมากจากจิตใจที่อ่ า น มันจนกระทั่งบรรทัดนี้ แต่ว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นไปได้เพียงแต่คำเสนอแนะสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณแค่นั้น ถ้าหากคุณไม่ทดลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/