• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตู้คอนโทรลไฟฟ้า คืออะไร

Started by dsmol19, August 21, 2023, 02:05:30 AM

Previous topic - Next topic

dsmol19

ตู้คอนโทรลไฟ เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากมาย เนื่องจากว่าใช้เป็นตัวคอนโทรลไฟฟ้าทั้งยังระบบ หรือเครื่องจักรกลต่างต่างๆซึ่งทำหน้าที่คุมกระแสไฟฟ้านั่นเอง ตู้คอนโทรลไฟ ไปยังส่วนต่างๆของเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆมีหลายแบบ ลูกค้าสามารถประกอบตู้คอนโทรล ไว้ในงานต่างๆที่ต้องการได้ ยกตัวอย่างเช่น การคอนโทรลมอเตอร์ ควบคุมปั๊มน้ำ และยังประกอบตู้สำหรับใช้คอนโทรลเครื่องจักร ซึ่งแบ่งตู้ได้ตามรูปแบบการใช้งาน และก็ตามขนาด ตู้คอนโทรลไฟ ที่ใช้ในงานซึ่งมีหน้าที่ต่างกันออกไป ดังนี้
  • ตู้สวิทซ์บอร์ด หรือ ตู้ MDB (Main Distribution Board) ตู้ MDB เป็นตู้ควบคุมระบบกระแสไฟฟ้าหลัก รูปแบบการทำงานของตู้ MDBคือการรับไฟที่ส่งมาจากการไฟฟ้าหรือ ต้านทานเเรงดันต่ำของหม้อเเปลงกระแสไฟฟ้าเเล้วก็เลยจ่ายโหลดไปยังส่วนต่างๆของอาคาร เเละมี Main Circuit Breaker รอเป็นตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้าทั้งหมดมีเเผงจ่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยทั่วไปใช้กันในอาคารที่มีขนาดกลางขึ้นไป รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟในปริมาณมาก
  • ตู้เเผงควบคุมกระแสไฟฟ้ารอง หรือ SDB,DB (Sub Distribution Board) ตู้ควบคุมกระแสไฟฟ้ารอง จ่ายกระเเสกระแสไฟฟ้าไปตามตู้ PB. (Panel board) หรือ Load Center หลายๆตู้ขึ้นอยู่กับขนาดของตึกลักษณะคล้ายกับ ตู้สวิทซ์บอร์ดเเต่มีขนาดเเละพิกัดของตู้เล็กมากยิ่งกว่า เเละเครื่องมือทางไฟฟ้าภายในก็ลดหลั่นลงมา
  • ตู้ MCC (Motor Control Center) คือ ตู้เเบบวางพื้นที่ประกอบไปด้วยตู้เเนวตั้งเเละเป็นที่รวมของชุดควบคุมมอเตอร์ โดยชุดควบคุมมอเตอร์จะจัดตั้งเหนือชุดควบคุมมอเตอร์อื่นๆในเเนวตั้งเเละชุดควบคุมมอเตอร์เหล่านี้จะมีบัสในเเนวตั้งที่ต่อเข้ากับบัสกำลังในเเนวนอน
  • ตู้ PFC (Power-factor-Correction) ในระบบไฟฟ้ากำลังการแก้ไขค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นตัวที่ทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นหรือต่ำลงได้ ระบบไฟฟ้าที่มีค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ต่ำจะมีการสิ้นไปในระบบมากมาย ฉะนั้น เครื่องไม้เครื่องมือที่ประยุกต์ใช้งานจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ค่าครองชีพสำหรับเพื่อการซื้ออุปกรณ์ต่างๆเพิ่มขึ้น

ด้วยเหตุดังกล่าวการปรับแก้ค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ให้มีค่าสูงมากขึ้นจึงมีความจำเป็นต่ออาคารสำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆความเป็นจริงในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการกำลังไฟฟ้าจริง (Real Power) เเละกำลังไฟฟ้า รีเเอคทีฟ (Reactive - Power) เพื่อใช้สำหรับเพื่อการดำเนินการ