เทคนิค 7 ข้อช่วยให้คุณเลิกเป็นคน ขี้ไม่สบายใจ

[Jessicas]

ถ้าเกิดคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกใจ คิดมาก ฟุ้งซ่าน ขี้ตื่นตระหนก กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง

กระทั่งทำให้จะต้องลำบากใจอยู่เป็นประจำพวกเรามีแนวทางมาแนะนำที่สามารถช่วยให้คุณลดความไม่สบายใจ คิดมาก หรือ เพ้อเจ้อลงได้

1. พินิจความคิดของตน

หัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการทำเป็น การปล่อยให้ความนึกคิดของคุณลอยผ่านไป

แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกสมาธิแบบรุ่งโรจน์สติเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณ


หยุดหมกมุ่นกับความหลังได้ โดยให้คุณลองสังเกตการณ์ความนึกคิดของตน


มองว่าตัวเองกำลังไม่สบายใจอยู่กับเรื่องอะไร และ จะจัดการกับปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน

ทดลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วสังเกตความคิดของตนมอง คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไร้ขอบเขตจริงๆ

และก็ขณะที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแม้กระนั้นจะห่วยลงเพียงแค่นั้น แต่ว่าจิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

แล้วก็ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีที่ว่างสำหรับการรับฟังสิ่งที่ละเอียดอ่อนเพิ่มขึ้น

2. เขียนความคิดของตัวเอง

อีกแนวทางนึง ที่สามารถช่วยหยุดความนึกคิดเพ้อเจ้อของคุณ ก็คือ การระบายให้กับคนที่มีมุมมองวิธีคิดต่างกัน

ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้แนวทางเขียนระบายความคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้


เนื่องจาก การเขียนทำให้พวกเราคิดอย่ างเป็นระบบมากยิ่งกว่าเดิม ถ้าเกิดคุณเก็บความคิดเหล่านั้นไว้แม้กระนั้นในหัว


เว้นแต่มันจะไปสุมกันจนถึงเป็นเทือกเขามันยังเป็นเหตุให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น

3. กำหนดระยะเวลาสำหรับ "การหยุดใช้ความคิด"

การกำหนดเวลา "หยุดใช้ความคิด" ช่วยห้ามไม่ให้คุณหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากจนเกินความจำเป็น

ได้แก่ การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลาเข้านอนหลับ

มีคำเสนอแนะว่าให้แบ่งเวลาไว้โดยประมาณ 20 นาทีต่อวัน ในการสะท้อนความคิดของตนเอง

ด้านในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตัวเองกังวล ไตร่ตรองครุ่นคิด เพ้อเจ้อได้เต็มที่ตามอยาก แล้วเมื่อหมดเวลา

ก็ให้แปรไปทำสิ่งอื่นที่มีคุณประโยชน์กว่า หากคุณเริ่มคิดมากนอกตอนที่กำหนดไว้เมื่อใด

ก็ให้เตือนตัวเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดในขณะที่กำหนดดีมากยิ่งกว่า

4. เบี่ยงเบนความนึกคิดของตน

ฟังมองง่ายๆแม้กระนั้นแท้จริงการเขียนจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมกันนี่มันย ากนะ

ทดลองบริหารร่างกายหรือเล่นเกมมองเมื่อรู้ตัวว่าตนเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์แล้วก็ร่างกาย

ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหลายๆคนก็เห็นด้วยกับแนวทางลักษณะนี้เป็นให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความพอใจของคุณ


ซึ่งจะต้องเป็นกิจก ร ร มที่ใช้ทั้งร่างกาย ความคิด รวมทั้ง การร่วมเล่นกับคนอื่นๆ ได้แก่ เทนนิส หรือการเดินเล่นกับเพื่อนฝูงสักคน

5. จุดโฟกัสที่สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้

อีกหนึ่งวิธีแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือทำอย่ าไปจุดโฟกัสในสิ่งที่คุณจำต้องทำ สิ่งที่ยังไม่ได้ทำ หรือ

แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรอบกาย แต่ว่าให้พุ่งความพอใจไปในที่สิ่งซึ่งสามารถทำได้ในปัจจุบันก็พอเพียง

ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหนก็ตาม แล้วหลังจากนั้นก็ลงมือกระทำมันซะ อย่างงี้ทุกครั้งที่พวกเราตื่นตระหนก

ถึงปัญหาในเรื่องอะไรก็แล้วแต่พวกเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

6. นับถือความคิดเห็นของตน

เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนไม่ยินยอมตัดสินใจส่วนหนึ่งส่วนใดอาจเป็นเพราะคุณไม่เชื่อว่าตนเองจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้อง

ต้องศึกษาที่จะยกย่องความเห็นของตัวเองยิ่งคิดมากเท่าใด คุณก็จะยิ่งลังเลในความคิดของตนมากแค่นั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่บกพร่องได้

เป็นเรื่องปกติที่จะไม่ค่อยสบายใจว่าคุณเลือกงานผิด สมรสกับผู้ที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง หรือแม้กระทั้งขับขี่รถกลับไปอยู่ที่บ้านผิดทาง

แต่ว่าความบกพร่องก็มิได้นำมาซึ่งหายนะเสมอไป แถมยังเป็นโอกาสให้ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นด้วย

คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลกับข้อผิดพลาดเลย รวมทั้ง ให้รู้เรื่องไว้ว่าความคิดเห็นหรือความรู้ของ

คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามกาลเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบแล้วก็เป็นอิสระจากด้านในอย่ างโดยความเป็นจริง
ฟุ้งซ่าน 
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/
คำค้นหา : วิตกกังวล