ตับคือศูนย์กลางระบบกรองสารพิษของร่างกาย ทั้งช่วย กรองของเสีย, ควบคุมการดูดซึมไขมัน, ควบคุมน้ำตาล, และ ผลิตเอนไซม์และฮอร์โมนสำคัญ
(http://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2025/05/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A2-%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2.png)
แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ... เมื่อตับไม่ไหวแล้ว มักจะ ไม่มีสัญญาณชัดเจน ในระยะแรก จนกว่าความเสียหายจะ เข้าสู่ระยะอันตราย
ดังนั้น การสังเกต อาการผิดปกติที่บ่งบอกว่าตับเริ่มไม่ปกติ จึงสำคัญมาก เพื่อให้คุณ ปรับพฤติกรรมได้ทันเวลา
🔍 เช็กอาการเหล่านี้ก่อนสาย
- รู้สึกหมดแรง แม้นอนพอ
แม้จะ เข้านอนเป็นเวลา ก็ยังรู้สึก หมดแรง เพราะ ตับไม่สามารถเปลี่ยนพลังงานจากอาหารได้อย่างเต็มที่
- รู้สึกจุกแน่นหลังอาหาร
เกิดจากตับ ผลิตน้ำดีได้ไม่เพียงพอ ทำให้ ระบบย่อยไขมันทำงานไม่ดี
- ผิวเหลือง ตาเหลือง
เป็นอาการคลาสสิกของ โรคตับ ซึ่งมักเกิดจาก ระดับสารบิลิรูบินในเลือดสูงกว่าปกติ
- คันเรื้อรังแบบไม่มีเหตุผล
เกิดจาก สารพิษสะสมในร่างกาย ทำให้ รู้สึกคันทั่วร่าง
- กินได้น้อยลง หิวง่าย พะอืดพะอม
เป็นสัญญาณว่าตับ มีภาระสะสมมากเกินไป
- ปัสสาวะเข้ม อุจจาระซีด
บ่งบอกถึงความผิดปกติของ การขจัดของเสียและการสร้างน้ำดี
- ฟกช้ำแม้ไม่กระแทกแรง
เพราะตับมีหน้าที่ ผลิตสารที่หยุดเลือด ถ้าตับมีปัญหา เลือดจะหยุดยากขึ้น
⚠️ อย่าชะล่าใจเมื่ออาการยังไม่แรง
โรคตับ เช่น ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ มัก ไม่แสดงอาการจนกว่าจะเข้าสู่ระยะรุนแรง
การตรวจเลือดหรือตับเบื้องต้น และ เริ่มดูแลตับตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก
✅ เคล็ดลับดูแลตับไม่ให้พัง
- งดแอลกอฮอล์ หรือลดความถี่ในการดื่ม
- เลี่ยงอาหาร เค็ม
- ออกกำลังกาย เป็นประจำ
- ดื่มน้ำ อย่างเพียงพอ
- พักผ่อน ให้เพียงพอ
- พิจารณาเสริมด้วย สมุนไพรบำรุงตับ ที่มีผลวิจัยรับรอง เช่น วิตามินบำรุงตับ (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/five-food-for-liver)
📌 สรุป: ตับอ่อนแอเมื่อไร ร่างกายตามมาแน่นอน
ถ้าคุณมี อาการที่กล่าวเบื้องต้น อย่า คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก รีบ ปรึกษาแพทย์ทันที
เพราะตับเป็น ตัวกรองสารพิษที่ไม่มีอะไหล่เปลี่ยนได้เหมือนเครื่องยนต์