Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2025 ที่น่าผิดหวัง โดยกำไรสุทธิลดลง 71% เหลือเพียง 409 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากการขายรถยนต์ลดลง 20% อยู่ที่ 14,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดขายลดลง 13% ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022
(https://s.isanook.com/ns/0/ud/1956/9780966/new-thumbnail1200x720(95).jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
แม้สถานการณ์จะไม่สู้ดี แต่อีลอน มัสก์ยังคงแสดงความเชื่อมั่น โดยเน้นว่าความต้องการรถไฟฟ้ายังแข็งแกร่งและบริษัทมีอนาคตมั่นคง มัสก์ฝากความหวังไว้กับโครงการ Robotaxi ที่จะเปิดให้บริการในออสตินเดือนมิถุนายนนี้ เริ่มต้นด้วย 10-20 คัน และการพัฒนารถยนต์ราคาประหยัดที่ขับเคลื่อนด้วย AI
มัสก์ประกาศลดบทบาทในหน่วยงาน Department of Government Efficiency (DOGE) ของรัฐบาลทรัมป์ เหลือเพียงสัปดาห์ละ 1-2 วัน เพื่อกลับมาทุ่มเทให้กับ Tesla อย่างเต็มที่ การตัดสินใจนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามกู้ภาพลักษณ์แบรนด์ที่อาจได้รับผลกระทบจากความเกี่ยวพันทางการเมืองของมัสก์ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเสรีนิยมซึ่งเป็นฐานหลักของ Tesla
Tesla ยังเผชิญความท้าทายจากคู่แข่งจีนและยุโรปที่รุกตลาด EV ด้วยราคาถูกและนวัตกรรมใหม่ ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และความผันผวนของห่วงโซ่อุปทาน ปี 2025 จึงเป็นปีสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตของ Tesla (https://keeshabrownie.com/news/1069/) ว่าจะสามารถฟื้นตัวและสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้หรือไม่